we write down made-up stories to tell the truths
we wish we could say out loud.
มีคนเคยพูดไว้ว่าหากอยากสัมผัสช่วงเวลาไหน
ก็เขียนมันออกมา
บ่อยครั้งที่เราถ่ายทอดความคิด
สิ่งที่อยู่ในใจออกมาเป็นตัวหนังสือ
ไม่ว่าเป็นบันทึกถึงตัวเองก็มี ถึงคนอื่นๆ ก็มาก
มีทั้งเขียนไว้ในโลกออนไลน์ และในสมุดคู่ใจ
พอผ่านไปเมื่อย้อนกลับมาอ่าน เลยถึงรู้ตัวเองจริงๆ
แล้วเสน่ห์ของมันคือลายมือและเส้นปากกาบนหน้ากระดาษนี่แหละ ที่ฝังอารมณ์และความรู้สึก
ณ ขณะที่เราเขียนเรื่องราวตอนนั้นออกมาได้ดีที่สุด
เปรียบเหมือนงานศิลป์ก็ไม่ต่างกัน
แต่เราดันไม่ใช่คนลายมือสละสลวยอะไรมากมาย
หากจะเขียนอะไรให้ใครสักหน่อยคงต้องใช้เวลาแปลกันยาว เป็นที่มาที่ทำอยากเรียนเขียน Calligraphy เพราะว่าชอบดู ชอบเห็นคนเขียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมีเวลาว่างสักหน่อย เลยคุยกับพี่ไนน์เจ้าของเพจ Typer
และก็ชวนมาเรียนกันแบบตัวต่อตัวเลย
เริ่มต้นกันตั้งแต่คัด A - Z ใหม่อีกรอบ
จากนั้นก็เริ่มคัดเป็นประโยค
ไม่ง่ายและไม่ยาก แต่สนุกมาก
เราเขียนเพลินไปเรื่อยทั้งวัน จนหยุดมือไม่ได้
เรียนอยู่ 2 วันเต็มๆ จนตอนนี้ลายมือสวยเป็นผู้เป็นคนกว่าเดิมเยอะมาก ต้องขอบคุณ Typer จริงๆ ที่เป็นครูช่วยสอนเรา ที่จะทำให้เรามีสมุดบันทึกที่สวยขึ้นมากกว่าเดิม
และการเขียน Callgraphy ก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าใครมีเวลาและอยากฝึกหัดไว้เป็นสกิลส่วนตัว เพื่อนำไปเขียนจดหมายหรือโปสการ์ดมอบให้คนอื่นๆ ก็สามารถไปเรียนกันได้เลยนะ โดยที่นี่จะมีการสอนทั้งแบบกลุ่มและแบบส่วนตัว ลองเข้าไปดูได้ที่เพจ TYPER ได้เลย
#TYPER
#ABOVETHEMARS